กนง.หวั่นผลกระทบลด GDP เพียง 3.2% จากเดิม 3.4% หนุนหุ้นไทยปิด +8.66 จุด

หุ้นไทยปิดตลาด +8.66 จุด โบรกฯ ชี้ตลาดรับลูกผลประชม กนง.ที่ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรุนแรง จากเดิม 3.4% เป็น 3.2% ส่งผลให้ SET INDEX สะท้อนในเชิงบวก โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงิน หุ้นกลุ่มค้าปลีก และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ภาพรวมปรับตัวขึ้นได้ดี พร้อมประเมินแนวโน้มวันพรุ่งนี้มีโอกาสขึ้นไปต่อแต่อาจแกว่งออกด้านข้าง โดยมองแนวรับที่ 1,695 จุด และแนวต้านที่ 1,705 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 30 มีนาคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +8.66 จุด หรือ +0.51% โดยปิดตลาดที่ 1,698.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 97,951.67 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในแดนบวกตลอดวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,702.67 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,692.73 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 996 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 830 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 830 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 3,301.86 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,391.92 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -668.77 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -241.17 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,341.25 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,266.48 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
3.GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,235.61 ล้านบาท ปิดที่ 51.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,829.77 ล้านบาท ปิดที่ 66.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.CPN มูลค่าการซื้อขาย 2,565.03 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CPN ปิดที่ 60.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 5.26%
2.SCC ปิดที่ 382.00บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 0.79%
3.CBG ปิดที่ 108.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 2.37%
4.AEONTS ปิดที่ 196.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.29%
5.GPSC ปิดที่ 72.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 2.85%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.66%
2.ADVANC ปิดที่ 235.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.84%
3.TOP ปิดที่ 52.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.76%
4.BLA ปิดที่ 44.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.22%
5.SINGER ปิดที่ 52.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.86%

ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,319.80 จุด เพิ่มขึ้น 12.32 จุด หรือ 0.53% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 1,022.83 จุด เพิ่มขึ้น 6.03 จุด หรือ 0.59% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 658.79 จุด เพิ่มขึ้น 16.74 จุด หรือ 2.61%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น แต่ยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,700 จุดได้ โดยกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าภาพรวมตลาด ได้แก่ กลุ่มค่าปลีก อย่าง CRC กลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มแบงก์ หลังจากราคาพักตัวในช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครนมีความตึงเครียดมาก และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็กลับมา Outperform ได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 65 ลงจากเดิม 3.4% เป็น 3.2% ถือว่าไม่ได้มากกว่าที่คาดไว้ และการบริโภคภายในประเทศยังฟื้นตัวได้ดี หนุนตลาดให้ปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ

ส่วนแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ นายณัฐวุฒิ คาดว่า ตลาดยังมีโอกาสขยับขึ้นไปได้ต่อเนื่อง แต่อาจมีลักษณะแกว่งตัวออกด้านข้างหลังปรับขึ้นมาหลายวันแล้ว โดยให้แนวรับ 1,695 จุด และแนวต้าน 1,705 จุด

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket

admin