เปิดวิธีการยื่นภาษีคริปโทเคอร์เรนซี ร่วมกับการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รอบปีภาษี 2564 ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง-ยื่นอย่างไร
การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี และโทเค็นดิจิทัล หรือสินทรัพย์ดิจิทัล มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และรูปแบบการทำธุรกรรมต่าง ๆ
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2564 มีจำนวนบัญชีผู้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลสูงถึง 1,979,847 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีที่มีจำนวนบัญชีหลักหมื่น
ขณะที่ 31 มกราคม 2565 กรมสรรพากรเผยแพร่คู่มือการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีของการเสียภาษีคริปโทเคอร์เรนซี และโทเค็นดิจิทัล ด้วยรายละเอียดความยาว 32 หน้า เพื่อหวังว่าคู่มือนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ชัด โดยจะมีเนื้อหาครอบคลุม
คู่มือดังกล่าวมีการชี้แจงวิธีการคำนวณเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีและโทเค็นดิจิทัล ไว้ 5 ประเภท ได้แก่
-
- การจำหน่าย จ่าย โอน หรือแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี/โทเค็นดิจิทัล
- การขุดคริปโทเคอร์เรนซี
- การได้รับคริปโทเคอร์เรนซี/โทเค็นดิจิทัล เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้าง
- คริปโทเคอร์เรนซี/โทเค็นดิจิทัล จากการให้หรือได้รับเป็นรางวัล
- ได้รับผลประโยชน์ หรือผลตอบแทนจากการถือครองโทเค็นดิจิทัล และคริปโทเคอร์เรนซี
การทำความเข้าใจรูปแบบทางธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง “ประชาชาติธุรกิจ” ชวนดูวิธีการคำนวณ เอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการจ่ายภาษีคริปโทเคอร์เรนซี
สามารถดาวน์โหลด และอ่านคู่มือการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีของการเสียภาษีคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล ฉบับเต็มคลิกที่นี่
วิธีคำนวนต้นทุน
- คำนวณต้นทุนด้วย 2 วิธี
- ก่อนเข้า-ออก (FIFO) คือ การคำนวณต้นทุนคริปโทเคอร์เรนซี/โทเค็นดิจิทัล โดยคริปโทเคอร์เรนซี/โทเค็นดิจิทัล ที่ซื้อมาก่อนจะขายออกไปก่อนตามลำดับ จึงเป็นผลให้รายการ คริปโทเคอร์เรนซี/โทเค็นดิจิทัลที่เหลืออยู่ ณ วันสุดท้ายเป็นคริปโทเคอร์เรนซี/โทเค็นดิจิทัลที่ซื้อมาครั้งหลังสุด
- ต้นทุนถั่วเฉลี่ย (Moving Arrange) ตัวอย่างเช่น วันที่ 1 ก.พ. ซื้อคริปโท A จำนวน 1 เหรียญในราคา 10,000 บาท/เหรียญคริปโท ต่อมาในวันที่ 3 ก.พ. ซื้อเพิ่มอีก 1 เหรียญในราคา 12,000 บาท ถ้าใช้วิธี “เข้าก่อน-ออกก่อน” (FIFO) ในการคิดต้นทุนเมื่อจะขายออก 1 เหรียญ จะใช้ราคาของเหรียญที่ซื้อเข้ามาก่อน นั่นคือ 10,000 บาท
- ยกเว้นการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
- นำผลขาดทุนมาหักลบกำไรได้
ใครต้องยื่นภาษีคริปโทบ้าง
- ผู้มีเงินได้ 3 ประเภท
- เงินได้จากการโอนหรือขายคริปโทเคอร์เรนซี เฉพาะซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน
- เงินได้จากการขายคริปโทเคอร์เรนซี ที่ได้จากการขุด
- เงินได้จากผลตอบแทนใด ๆ จากการนำคริปโทเคอร์เรนซี ไปหาประโยชน์
เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนยื่น
ผู้มีเงินได้จากการขายคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเค็นดิจิทัล ต้องประเมินตนเองว่ามีกำไรจากการขายคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเค็นดิจิทัล เป็นจำนวนเงินเท่าไร และควรเตรียมหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ต้นทุนในการซื้อและราคาขายคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเค็นดิจิทัล เพื่อประกอบการพิสูจน์กำไรของผู้มีเงินได้หลักฐานที่ระบุถึง การทำธุรกรรมการซื้อ หรือขาย
- จำนวนที่ซื้อ หรือขาย
- มูลค่าของคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเค็นดิจิทัล ณ วันที่ทำธุรกรรม
- อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิง
- รายละเอียดผู้ซื้อหรือผู้ขาย สำหรับการซื้อ/ขาย คริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเค็นดิจิทัล (ถ้ามี)
- หลักฐานใบกำกับภาษีหรือ ใบเสร็จค่าใช้จ่าย
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ถ้ามี)
วิธียื่นภาษีภาษีคริปโท
- เข้าเว็บไซต์ กรมสรรพากร : ยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ต
- เลือกการชำระภาษี ยื่นในแบบออนไลน์
- ใส่เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หรือชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่าน
- ระบบจะให้ใส่หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อขอรับรหัส OTP
- เลือกยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90
- ตรวจสอบชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลต่าง ๆ หากข้อมูลผิดสามารถแก้ไขได้ ถ้าถูกให้กดถัดไป
- เลือกยื่นแบบแสดงรายการเงินได้บุคคลธรรมดา จากรายได้จากการลงทุนดอกเบี้ย เงินปันผลจากบริษัทต่างประเทศ ประโยชน์ใด ๆ จากคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเค็นดิจิทัล เงินเพิ่มทุน เงินลดทุน (มาตรา 40 (4))
- เลือก ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซี่ หรือโทเค็นดิจิทัล กรอกเงินทั้งหมด ภาษี ณ ที่จ่าย 15% จากนั้นใส่เลขผู้จ่ายเงินได้ และกดยืนยัน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance